ไม่กล้าลุยด้วยตัวเองในการทำมาหากิน
เมื่อพี่สาว พูดให้กำลังใจน้องสาว ให้ลุกขึ้นสู้ ไปทำมาหากิน
.. หาเงิน ทำงาน เพื่อนาคตของตัวเอง...
น้องสาว ซึ่งกลัวๆกล้าๆ พยายามอ้อนวอน ขอให้ไปช่วยเธอในช่วงเริ่มต้น
แต่พี่สาว บอกว่า สามีของพี่ไม่ยอมหรอก..
ในการลงมือทำอะไร หลายครั้งที่น้องสาว ทำเสีย..ทำไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ทำให้เริ่มขาดกำลังใจ
เช่น ทำแซนวิช เพื่อขายส่งให้ร้านค้าในหมู่บ้าน
พี่สาว สอนให้ห่อแซนวิช ทำอย่างดี ทาครีม ใส่ใส้ ตัดขนมปังแบบไหน
แต่ด้วยความที่น้องสาว เป็นคนใจร้อน เมื่อทำออกมา เลยห่อไม่สวย
ทาครีม ใส่ไส้มากเกินไป
เพราะไม่ได้ใส่ใจ ตั้งใจทำ
และอีกอย่างนึง คือ ไม่ได้ลงทุน ลงเงินเอง..
เลยขาดความตั้งใจไปนิด...
ฝ่ายพี่สาว ซึ่งลงทุน ลงเงิน เวลาทำแซนวิช หรือทำขนม ได้คิดถึงจุดคุ้มทุน และกำไรต่อชิ้นไว้แล้ว
ขายแซนวิช ควรจะได้กำไร ชิ้นละ 2 บาท
จึงพยายามตั้งใจทำ และตั้งใจห่อ ให้สวยงาม
เมือเอาไปวางขายที่ร้าน ปรากฏว่า..
แซนวิชที่พี่สาวทำ ขายหมดอย่างรวดเร็ว..
ทำให้ร้านค้าที่รับไปขาย จะขายแซนวิชที่รับมาจากเจ้าอื่น ขอขายให้หมดก่อน
พอหมดแล้ว จะมาสั่งพี่สาว ให้ทำแซนวิชไปส่ง
แม้จะเป็นรายรับเล็กๆน้อยๆ ไม่กี่สิบบาท แต่หลายครั้ง ก็เป็นเงินหลักร้อย..
เอามาใช้จ่ายได้เช่นกัน..
เมื่อคุณไม่หมิ่นเงินน้อย ตั้งใจทำมาหากิน จะได้ลูกค้า สร้างชื่อเสียง..
ไม่มีใครที่ทำงาน ทำมาหากินแล้ว จะโชคดี ขายของได้กำไรทันที
ล้วนต้องลองผิดลองถูก มีการเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น
การที่อยากให้น้องสาว ได้ลงมือทำมาหากินเอง
โดยที่พี่สาว ไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือทุกอย่าง..
ก็เพื่อให้น้องสาว ได้เรียนรู้...
ที่ผ่านมา ในการทำงานที่บ้าน หากงานไหนที่น้องสาวรู้สึกว่า ทำไม่ไหว ทำไม่ดี เหนื่อย..
ก็จะเดินหนี ไปซะเฉยๆ
แล้วถ้าเป็นงานลงทุน ทำมาหากิน
ถ้าน้องสาวให้พี่สาวไปช่วยทำช่วยขาย...
ถ้าช่วงไหนที่น้องสาว เหนื่อย ทำไม่ไหว..
แล้วจะเดินหนี ปล่อยให้พี่สาว ทำคนเดียว เหนื่อยคนเดียว อย่างนั้นหรือ..
คนเป็นพี่สาว เหนื่อยมามากพอแล้ว..
อย่าให้ต้องโอบอุ้มไปตลอดชีวิต เลยนะ
เมื่อพี่สาว พูดให้กำลังใจน้องสาว ให้ลุกขึ้นสู้ ไปทำมาหากิน
.. หาเงิน ทำงาน เพื่อนาคตของตัวเอง...
น้องสาว ซึ่งกลัวๆกล้าๆ พยายามอ้อนวอน ขอให้ไปช่วยเธอในช่วงเริ่มต้น
แต่พี่สาว บอกว่า สามีของพี่ไม่ยอมหรอก..
ในการลงมือทำอะไร หลายครั้งที่น้องสาว ทำเสีย..ทำไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ทำให้เริ่มขาดกำลังใจ
เช่น ทำแซนวิช เพื่อขายส่งให้ร้านค้าในหมู่บ้าน
พี่สาว สอนให้ห่อแซนวิช ทำอย่างดี ทาครีม ใส่ใส้ ตัดขนมปังแบบไหน
แต่ด้วยความที่น้องสาว เป็นคนใจร้อน เมื่อทำออกมา เลยห่อไม่สวย
ทาครีม ใส่ไส้มากเกินไป
เพราะไม่ได้ใส่ใจ ตั้งใจทำ
และอีกอย่างนึง คือ ไม่ได้ลงทุน ลงเงินเอง..
เลยขาดความตั้งใจไปนิด...
ฝ่ายพี่สาว ซึ่งลงทุน ลงเงิน เวลาทำแซนวิช หรือทำขนม ได้คิดถึงจุดคุ้มทุน และกำไรต่อชิ้นไว้แล้ว
ขายแซนวิช ควรจะได้กำไร ชิ้นละ 2 บาท
จึงพยายามตั้งใจทำ และตั้งใจห่อ ให้สวยงาม
เมือเอาไปวางขายที่ร้าน ปรากฏว่า..
แซนวิชที่พี่สาวทำ ขายหมดอย่างรวดเร็ว..
ทำให้ร้านค้าที่รับไปขาย จะขายแซนวิชที่รับมาจากเจ้าอื่น ขอขายให้หมดก่อน
พอหมดแล้ว จะมาสั่งพี่สาว ให้ทำแซนวิชไปส่ง
แม้จะเป็นรายรับเล็กๆน้อยๆ ไม่กี่สิบบาท แต่หลายครั้ง ก็เป็นเงินหลักร้อย..
เอามาใช้จ่ายได้เช่นกัน..
เมื่อคุณไม่หมิ่นเงินน้อย ตั้งใจทำมาหากิน จะได้ลูกค้า สร้างชื่อเสียง..
ไม่มีใครที่ทำงาน ทำมาหากินแล้ว จะโชคดี ขายของได้กำไรทันที
ล้วนต้องลองผิดลองถูก มีการเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น
การที่อยากให้น้องสาว ได้ลงมือทำมาหากินเอง
โดยที่พี่สาว ไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือทุกอย่าง..
ก็เพื่อให้น้องสาว ได้เรียนรู้...
ที่ผ่านมา ในการทำงานที่บ้าน หากงานไหนที่น้องสาวรู้สึกว่า ทำไม่ไหว ทำไม่ดี เหนื่อย..
ก็จะเดินหนี ไปซะเฉยๆ
แล้วถ้าเป็นงานลงทุน ทำมาหากิน
ถ้าน้องสาวให้พี่สาวไปช่วยทำช่วยขาย...
ถ้าช่วงไหนที่น้องสาว เหนื่อย ทำไม่ไหว..
แล้วจะเดินหนี ปล่อยให้พี่สาว ทำคนเดียว เหนื่อยคนเดียว อย่างนั้นหรือ..
คนเป็นพี่สาว เหนื่อยมามากพอแล้ว..
อย่าให้ต้องโอบอุ้มไปตลอดชีวิต เลยนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น