วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มีทีวีดิจิตอลหลายช่อง แต่สติปัญญาคนไทยถดถอย

มีทีวีหลายช่อง แต่สติปัญญาคนไทยถดถอย "เรามีทีวีดิจิตอล เพิ่มขึ้นมากมายหลายช่อง
แต่สติปัญญาของคนไทย ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย"

เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยีก้าวไกล
อุปกรณ์ เครื่องมือ โทรศัพท์มือถือ มีความสามารถมากขึ้น ทำได้แทบจะทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ ทำหลายๆอย่าง ทำแทนได้

ตามหลักการแล้ว ถ้ามีการแข่งขัน มีการเติบโตมากขึ้น
มีตัวเลือก ทางเลือกมากขึ้น หลายอย่าง จะพัฒนาไปมากกว่าเดิม
เช่น โทรศัพท์มือถือ มีหลายรุ่นมากขึ้น
ความเร็วในการประมวลผล ยิ่งมากขึ้น
สามารถเก็บข้อมูล ลงแอพต่างๆได้มากขึ้น

ทำให้กิจกรรมต่างๆ มีการพัฒนา เติบโต ใช้ช่องทางสื่อสาร ติดต่อ ค้าขาย
...ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้มากยิ่งขึ้น

แล้ว ประเทศไทย ก็มีทีวีดิจิตอล เกิดขึ้นหลายช่อง 3-5-7-9-11-ไทยพีบีเอส

ากเดิม 6 ช่อง ตอนนี้ งอกเพิ่มเป็น 20-30 ช่อง

คนไทยน่าจะมีความรู้ มีสติปัญญา ฉลาดมากขึ้น..
แต่ในความเป็นจริง...
..ดูข่าวหลายเรื่อง คนไทย ก็ยังถูกหลอกได้ง่ายเหมือนเดิม

มิจฉาชีพ หาช่องทางมาตุ้มตุ๋น หลอกลวงมากขึ้น
เรารู้ข่าวการหลอกลวง มากขึ้น..
.แล้วก็ยังมีคนโดนหลอก ซ้ำแล้วซ้ำอีก

เอ ทีวีดิจิตอลไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอ
ไม่ได้ช่วยให้คนไทย มีสติปัญญา
ไม่ให้ถูกหลอกลวง ได้ง่ายๆ...

"จะมีเพิ่มอีกกี่ช่อง แต่คนไทยก็ชอบดูแต่รายการบันเทิง ละคร หนัง ถ่ายทอดสดกีฬา ดูเพื่อความสนุกสนาน ตามเชียร์ ตามลุ้น แต่รายการที่ให้ความรู้ เพิ่มพูนสติปัญญา รู้เท่าทันกลโกง มีคนไทยสนใจดูกันกี่ % ล่ะ"

เคยมีคนบอกว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่กี่บรรทัด
แล้วคนไทย ดูทีวีที่ประเทืองปัญญา ได้สาระ ความรู้รอบตัว รู้เท่าทันกลโกง..
คนไทยกลุ่มนี้ มีกี่ %

ตามข่าวเรื่องทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ
มักจะได้ยินแต่เรื่อง ทีวีช่องไหน เรตติ้งดี รายการไหนคนชอบดู
ช่องไหน เรตติ้งอันดับเท่าไหร่ ความนิยมเท่าไหร่
ช่องไหน มีกำไรมากขึ้น ช่องไหน ยังไม่คุ้มทุน

พูดถึงแต่ตัวเลขพวกนี้
แต่คนดูล่ะ ได้อะไรจากข้อมูลข่าวสารเหล่านี้
ได้แค่ชื่นชม กรี๊ดกร้าด ที่ช่องที่ตัวเองชอบ มีเรตติ้งดี ..
แค่นั้นเหรอ

ช่วงก่อนหน้านี้ มีทีวีดาวเทียม เป็นร้อยๆช่อง
มีกระแส อยากติดจานดาวเทียม มีโปรโมชั่นมากมาย
แล้วสติปัญญา คนไทย เพิมขึ้นรึเปล่า..

แล้วทีวีดิจิตอลแค่ไม่กี่ช่อง
จะหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สติปัญญาของคนไทยเพิ่มขึ้นได้ทันที อย่างนั้นเหรอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น