คำนินทาที่จะได้ยินทีหลัง
เมื่ออยู่ในสังคม ต้องติดต่อ รู้จักกับผู้คน
มีสังคม มีเพื่อน ทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนคุย เพื่อนที่ทำธุรกิจ กิจกรรมต่างๆด้วยกัน..
เมื่อหลายคน มาพบเจอกัน พูดคุยกัน สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน..
..คือ การนินทา..
บางที เราอยู่ของเราเป็นปกติ ก็ยังเกิดคำนินทาขึ้นมาจนได้
"เห็นคนนั้น อยู่สุขสบายดี มีเงินใช้ ไม่เห็นจะเหมือนคนทุกข์ยาก ลำบากเลย"
" ทำงานน่ะ ทำเพื่อเลี้ยงดูอุ้มชูน้องสาวเหรอ วันๆ ไม่เห็นคนเป็นน้องทำอะไรเลย"
"คิดจะมาเกาะพี่กินไปจนตายล่ะสิ"
ถ้าเจ้าตัวได้ยินคำพูดนินทาแบบนี้ ปรี๊ดแตกแน่นอน..
"ที่ปรี๊ดแตกนี่ มันตรงกับที่เขาคิด หวังไว้ล่ะสิ"
เออ ถ้ามันไม่แทงใจดำ ไม่ใช่ตัวเขา ก็คงไม่โกรธ อาวะลาดหรอก..
นั่นสินะ..
ไม่มีใคร รู้ความคิดของแต่ละคน ไปทุกๆอย่างหรอก..
ต่อหน้า ทำดี แต่ลับหลังนี่สิ จะเป็นอย่างไรกัน..
หลายคนเลือกที่จะไม่ใส่ใจ สนใจในคำติฉินนินทา เพราะได้ยินแล้ว มันบั่นทอนจิตใจ กำลังใจอย่างมากมาย
..หลายคน ต้องเสียเวลา เสียพลังงาน ในการคิด แค้น อยากเอาคืน อยากตอบโต้ อยากไปชี้แจง แก้ไข คำพูดนินทานั้น
ล้วมันได้อะไรล่ะ
ถ้าหากเราอยู่ในสังคม ที่มีแต่คนชอบนินทา
ไม่อยากเห็นใคร ดี เด่น เกินกว่าตัวเอง
ไม่ว่าจะทำอะไร ขยับนิดๆ ก็โดนเอามานินทาได้เสมอ
แต่คำนินทา ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเค้าเห็น และเข้าใจ...
คนที่ถูกนินทา ทำตัวเอง ให้คนเข้าใจ เห็นอย่างนั้น แล้วเอาไปนินทาอย่างนั้นรึเปล่า
ยกตัวอย่าง เรื่อง "คิดจะมาเกาะพี่สาวกินไปจนตายล่ะสิ"
ถ้าคนเป็นน้องสาว ไม่คิดที่จะทำงาน ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อยู่ไปวันๆ อยู่เฉยๆ
เดินออกไปไหน ใครก็เห็น
วันเวลาผ่านไป หลายวัน หลายเดือน ก็ยังเห็นเหมือนเดิม เดินไปเดินมา..
ไม่เห็นลงมือทำมาหากินอะไรจริงๆจังๆ
แบบนี้ ใครก็ต้องคิด และพูดนินทาแบบนั้น..
แต่ถ้า สิ่งที่หลายคน เห็น เปลียนไป
เห็นคนเป็นน้องสาว แต่งตัว ออกไปทำงาน กลับมา เหน็ดเหนื่อย ซื้อกับข้าว ถือถุงเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หรือ ทุกเช้าวันใหม่ คนเป็นน้องสาว ออกไปตั้งโต๊ะ ทำกับข้าวขาย ตอนเช้าทุกๆเช้า
ทำขายตลอด 3 เดือน 6 เดือน จนชาวบ้านเห็น จนชินตา...
ถ้าทำมาหากินแบบนี้ จะมีใคร พูดนินทามั้ยล่ะว่า
"คิดจะมาเกาะพี่สาวกินไปจนตายล่ะสิ"
คำพูดคำนินทา คงจะเปลี่ยนไปเป็น
"นี่คิดจะมาแย่งที่ทางทำมาหากินของพี่สาวล่ะสิ"
เป็นคำนินทาที่ฟังดูดีกว่า คิดจะมาเกาะพี่สาวกิน..
ยิ่งนานวัน พฤติกรรมที่ชาวบ้านเห็น เป็นอย่างไร ก็จะทำให้คน นินทาแบบนั้น...
คนเราชอบมองคนอื่นในแง่ลบอยู่แล้ว ยิ่งหลายปาก ยิ่งขุดคุ้ย นินทาได้หลายประเด็น...
ยิ่งเป็นคนที่ไม่อยากเห็นคนอื่น ได้ดีไปกว่าตนเอง
ยิงจะพูดพ่น นินทาว่าร้าย กะจะเหยียบให้จมดินไปเลย
หลายครั้ง ที่กว่าจะได้ยินคำนินทาว่าร้าย ก็ต่อเมื่อ วันเวลาผ่านไปนานพอสมควร
.แล้ววันนี้ เค้านินทาอะไรเราล่ะ...
ถ้าเราได้ยินคำนินทา เมื่อ 1 เดือนผ่านไป ตอนนั้น ถ้าเราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นแล้ว..
แต่เมื่อ 1 เดือนก่อน เราทำอะไรแย่ๆไว้...
เมื่อได้ยินคำนินทา เราก็คงโกรธมากๆ
แต่คงจะโกรธน้อยกว่า คนที่ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเลย
ถ้ายังคงทำตัวแย่ๆ เหมือนเดิม หรือยิ่งกว่าเดิม พอได้ยินคำนินทา แล้วโมโห ตามไปด่าคนที่พูดนินทา...
มันก็ยิ่งแย่กว่าเดิม เหมือนคนที่ร้อนตัว ที่มีคนพูดย้ำในสิ่งที่แย่ๆของตัวเอง..
แล้วก็ยังไม่ยอมที่จะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง
.. ก็ยิ่งทำให้คน นินทา หนักกว่าเดิมอีก
แม้เราจะเป็นคนดีแค่ไหน ก็ยังถูกนินทาจนได้ ...
แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่คำนินทานั้น คนที่รู้จักเราจริงๆ จะเห็นเอง รู้เอง..
แล้วคนที่พูดนินทาน่ะแหละ จะเป็นคนที่คบไม่ได้ ไม่น่าคบหาด้วย..
เมื่ออยู่ในสังคม ต้องติดต่อ รู้จักกับผู้คน
มีสังคม มีเพื่อน ทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนคุย เพื่อนที่ทำธุรกิจ กิจกรรมต่างๆด้วยกัน..
เมื่อหลายคน มาพบเจอกัน พูดคุยกัน สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน..
..คือ การนินทา..
บางที เราอยู่ของเราเป็นปกติ ก็ยังเกิดคำนินทาขึ้นมาจนได้
"เห็นคนนั้น อยู่สุขสบายดี มีเงินใช้ ไม่เห็นจะเหมือนคนทุกข์ยาก ลำบากเลย"
" ทำงานน่ะ ทำเพื่อเลี้ยงดูอุ้มชูน้องสาวเหรอ วันๆ ไม่เห็นคนเป็นน้องทำอะไรเลย"
"คิดจะมาเกาะพี่กินไปจนตายล่ะสิ"
ถ้าเจ้าตัวได้ยินคำพูดนินทาแบบนี้ ปรี๊ดแตกแน่นอน..
"ที่ปรี๊ดแตกนี่ มันตรงกับที่เขาคิด หวังไว้ล่ะสิ"
เออ ถ้ามันไม่แทงใจดำ ไม่ใช่ตัวเขา ก็คงไม่โกรธ อาวะลาดหรอก..
นั่นสินะ..
ไม่มีใคร รู้ความคิดของแต่ละคน ไปทุกๆอย่างหรอก..
ต่อหน้า ทำดี แต่ลับหลังนี่สิ จะเป็นอย่างไรกัน..
หลายคนเลือกที่จะไม่ใส่ใจ สนใจในคำติฉินนินทา เพราะได้ยินแล้ว มันบั่นทอนจิตใจ กำลังใจอย่างมากมาย
..หลายคน ต้องเสียเวลา เสียพลังงาน ในการคิด แค้น อยากเอาคืน อยากตอบโต้ อยากไปชี้แจง แก้ไข คำพูดนินทานั้น
ล้วมันได้อะไรล่ะ
ถ้าหากเราอยู่ในสังคม ที่มีแต่คนชอบนินทา
ไม่อยากเห็นใคร ดี เด่น เกินกว่าตัวเอง
ไม่ว่าจะทำอะไร ขยับนิดๆ ก็โดนเอามานินทาได้เสมอ
แต่คำนินทา ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเค้าเห็น และเข้าใจ...
คนที่ถูกนินทา ทำตัวเอง ให้คนเข้าใจ เห็นอย่างนั้น แล้วเอาไปนินทาอย่างนั้นรึเปล่า
ยกตัวอย่าง เรื่อง "คิดจะมาเกาะพี่สาวกินไปจนตายล่ะสิ"
ถ้าคนเป็นน้องสาว ไม่คิดที่จะทำงาน ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อยู่ไปวันๆ อยู่เฉยๆ
เดินออกไปไหน ใครก็เห็น
วันเวลาผ่านไป หลายวัน หลายเดือน ก็ยังเห็นเหมือนเดิม เดินไปเดินมา..
ไม่เห็นลงมือทำมาหากินอะไรจริงๆจังๆ
แบบนี้ ใครก็ต้องคิด และพูดนินทาแบบนั้น..
แต่ถ้า สิ่งที่หลายคน เห็น เปลียนไป
เห็นคนเป็นน้องสาว แต่งตัว ออกไปทำงาน กลับมา เหน็ดเหนื่อย ซื้อกับข้าว ถือถุงเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หรือ ทุกเช้าวันใหม่ คนเป็นน้องสาว ออกไปตั้งโต๊ะ ทำกับข้าวขาย ตอนเช้าทุกๆเช้า
ทำขายตลอด 3 เดือน 6 เดือน จนชาวบ้านเห็น จนชินตา...
ถ้าทำมาหากินแบบนี้ จะมีใคร พูดนินทามั้ยล่ะว่า
"คิดจะมาเกาะพี่สาวกินไปจนตายล่ะสิ"
คำพูดคำนินทา คงจะเปลี่ยนไปเป็น
"นี่คิดจะมาแย่งที่ทางทำมาหากินของพี่สาวล่ะสิ"
เป็นคำนินทาที่ฟังดูดีกว่า คิดจะมาเกาะพี่สาวกิน..
ยิ่งนานวัน พฤติกรรมที่ชาวบ้านเห็น เป็นอย่างไร ก็จะทำให้คน นินทาแบบนั้น...
คนเราชอบมองคนอื่นในแง่ลบอยู่แล้ว ยิ่งหลายปาก ยิ่งขุดคุ้ย นินทาได้หลายประเด็น...
ยิ่งเป็นคนที่ไม่อยากเห็นคนอื่น ได้ดีไปกว่าตนเอง
ยิงจะพูดพ่น นินทาว่าร้าย กะจะเหยียบให้จมดินไปเลย
หลายครั้ง ที่กว่าจะได้ยินคำนินทาว่าร้าย ก็ต่อเมื่อ วันเวลาผ่านไปนานพอสมควร
.แล้ววันนี้ เค้านินทาอะไรเราล่ะ...
ถ้าเราได้ยินคำนินทา เมื่อ 1 เดือนผ่านไป ตอนนั้น ถ้าเราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นแล้ว..
แต่เมื่อ 1 เดือนก่อน เราทำอะไรแย่ๆไว้...
เมื่อได้ยินคำนินทา เราก็คงโกรธมากๆ
แต่คงจะโกรธน้อยกว่า คนที่ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเลย
ถ้ายังคงทำตัวแย่ๆ เหมือนเดิม หรือยิ่งกว่าเดิม พอได้ยินคำนินทา แล้วโมโห ตามไปด่าคนที่พูดนินทา...
มันก็ยิ่งแย่กว่าเดิม เหมือนคนที่ร้อนตัว ที่มีคนพูดย้ำในสิ่งที่แย่ๆของตัวเอง..
แล้วก็ยังไม่ยอมที่จะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง
.. ก็ยิ่งทำให้คน นินทา หนักกว่าเดิมอีก
แม้เราจะเป็นคนดีแค่ไหน ก็ยังถูกนินทาจนได้ ...
แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่คำนินทานั้น คนที่รู้จักเราจริงๆ จะเห็นเอง รู้เอง..
แล้วคนที่พูดนินทาน่ะแหละ จะเป็นคนที่คบไม่ได้ ไม่น่าคบหาด้วย..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น