ASTV ปรับองค์กรอีกครั้ง 30 กันยายน 2558
ช่วงนี้ ติดตามข่าวธุรกิจการทำทีวีดิจิตอล มีบางช่อง ขาดทุนติดลบมากพอสมควร หลังจากลงทุนมามากมายมหาศาล แต่สปอนเซอร์ที่มาลงโฆษณา ที่จะทำให้สถานีมีรายได้ ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน รายรับน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ทีวีดิจิตอลหลายช่อง ไม่ค่อยจะดีซะแล้ว ในขณะที่บางช่อง มีคนติดตามดูเพิ่มขึ้น เรตติ้งดีขึ้น รายได้จากโฆษณา เริ่มมากขึ้น หลังจากติดลบมาหลายเดือน ตอนนี้ เริ่มมีกำไรมากขึ้นๆๆ
ส่วนทีวีดาวเทียม ช่องที่ติดตาม เอาใจช่วยมาตลอด อย่าง ASTV หรือ ชื่อปัจจุบัน คือ NEWS1 ซึ่งไม่ค่อยจะมีโฆษณาเข้ามาเลย แต่รายจ่าย ต้องจ่ายตลอดทุกๆเดือน แม้จะพยายามประคับประคอง จ่ายเงินเดือนให้พนักงาน บางส่วน เงินเดือนออกช้าบ้าง ต้องจ่ายย้อนหลังบ้าง แต่พนักงานที่ทำงานอยู่ อยู่กันด้วยใจ อดทนต่อสู้ฟันฝ่าช่วงเวลาที่ยากลำบากกันไป เพราะหลายคนรักองค์กรแห่งนี้จริงๆ
ก่อนหน้านี้ เคยปรับองค์กร ลดพนักงาน มีส่วนหนึ่ง สมัครใจลาออก เพื่อช่วยให้องค์กรอยู่ต่อไปได้ คนทำงานเหลือน้อยลง แต่เนื้องานยังอยู่ ลดค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แต่ให้องค์กร และส่วนที่สำคัญๆยังอยู่
ต้องยอมรับความจริงว่า เดี๋ยวนี้ มีทีวีให้เลือกดูหลายช่อง คนดู news1 ก็ลดจำนวนลง สถานการณ์การเมือง ไม่ได้ร้อนแรง เข้มข้นเหมือนหลายปีก่อน ผู้คนก็หันไปดูรายการบันเทิง ดูหนัง ดูละคร สบายใจมากกว่า
แม้จะมีคนดูน้อย แต่ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามดูอย่างเหนียวแน่น มีพี่น้องพันธมิตรที่บริจาคเงินช่วยเหลือ เป็นอาสาสมัครรักษา news1 ช่วยโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายให้ทุกๆเดือน โอนให้เท่าที่มีกำลังทรัพย์ กำลังเงินจะโอนให้ได้
แต่ความจริงอย่างหนึ่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายคน ต้องถอยห่าง เลิกดูเอเอสทีวี news1 รวมถึงเลิกสนับสนุนทีวีช่องนี้ ก็คือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้พนักงาน พิธีกร ผู้ประกาศข่าวหลายคน ต้องออกจาก news1 ไป อย่างที่ไม่อยากจะออกเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะมีบางคน บางกลุ่ม กดดัน จนต้องตัดสินใจออก
ล่าสุด คือ คุณแอน จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ที่อยู่กับที่นี่ มายาวนานเกิน 10 ปี เหนียวแน่น จนเป็นสัญลักษณ์ของทีวีช่องนี้ ใครเลยจะคิดว่า วันที่ 23 กันยายน 2558 จะได้ข่าว่า คุณแอน จินดารัตน์ จะต้องโบกมือลา นิวส์วัน
มีแฟนคลับ และมิตรสหายของตุณแอน หลายคน ออกมาแฉใน facebook ว่า ใครบางคน ที่กดดันให้คุณแอน ต้องออกไป ทั้งๆที่คุณแอน รักองค์กรแห่งนี้มากๆ
มีหลายคนที่จำใจต้องออกไปจากองค์กรแห่งนี้ ไปหางานทำที่อื่นแล้ว เมื่อมีเวลา ยังคงแวะเวียน กลับมาเยี่ยมองค์กร ให้กำลังใจ และติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวขององค์กรเดิมอยู่เสมอ
ที่นี่เคยปรับองค์กรไปแล้ว คราวนี้ ก็ต้องปรับองค์กรอีกครั้ง บางรายการ ก็หายไปจากจอ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และไปดึงรายการของช่อง ซูปเปอร์บันเทิง มาออกอากาศในช่อง นิวส์วัน เพื่อให้ทีวีช่องนี้สามารถออกอากาศได้ต่อไป
มีคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมทีวีดาวเทียมของสันติอโศก ถึงอยู่ได้ล่ะ ไม่เห็นต้องปรับปรุงลดขนาดองค์กร เหมือนเอเอสทีวีผู้จัดการ บ้างล่ะ , แล้ว ทีวีดาวเทียวช่องอื่นๆ ไม่เห็นมีปัญหาแบบนี้บ้างเลย
"แล้วรู้ได้ยังไงว่า ทีวีช่องอื่นๆไม่มีปัญหา"
"บางช่อง เค้ามีคนให้เงินสนับสนุนเป็นประจำ มีสปอนเซอร์ มีโฆษณาเข้ามา ทำให้เลี้ยงสถานีได้ บางช่องทีวีดาวเทียม ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายในการทำรายการ มากแบบนิวส์วันนี่ ยังไงก็อยู่ได้ แต่ของนิวส์วัน ทำรายการข่าว ทำสกุ๊ป เหมือนช่องฟรีทีวีเลย ค่าใช้จ่ายก็เลยเยอะเป็นเงาตามตัว"
"สันติอโศก เค้าทำรายการในพื้นที่ของเค้า วิธีการทำงานต่างกับเอกชน คนทำงานของสันติอโศก ไม่ต้องมาจ่ายเงินเดือนเหมือนบริษัทเอกชน และไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนในเมือง ที่จะต้องมีรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีหนี้สินมากมายแบบคนเมือง เค้าจึงอยู่ได้"
สำหรับ เอเอสทีวี นิวส์วัน นอกจากการปรับขนาดองค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่ายแล้ว ความเชื่อมั่น ศรัทธาของผู้คนที่เคยสนับสนุน ที่ลดน้อยลงไปทุกๆที นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งๆที่ต่อสู้ร่วมกันมา ผ่านเหตุการณ์เลวร้าย ถึงขั้นบาดเจ็บเสียชีวิต ผ่านการพิสูจน์หัวใจกันมาแล้ว แต่ความเห็นแก่ตัว ของคนหลายคน ทำให้องค์กรแห่นี้เกิดปัญหา .. หลายคนรู้สาเหตุ รู้ตัวปัญหา แต่ไม่อยากที่จะเป็นคนที่สร้างปัญหา ทำให้ความขัดแย้ง แตกแยก ขยายตัวไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจ นิ่ง เพื่อให้สถานการณ์ สงบ คนที่ยังอยู่ก็ต้องยืนหยัด ต่อสู้กันต่อไป
"อยากให้องค์กรนี้ อยู่ได้ มีรายรับเข้ามามากมาย จะได้ดึงคนที่รัก ผูกพันกับองค์กรนี้ กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง"
"คนที่ผ่านการทำงานที่นี่ ผ่านอุปสรรคความยากลำบากมาด้วยกัน เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งด้วยกันทั้งนั้น"
"อ่านใน facebook ติดตามเรื่องราวของพนักงานหลายคน ที่จำใจต้องออก เพื่อการปรับองค์กรให้อยู่รอด หลายคนทำงานมานานกว่า 20-30ปี ต้องก้มหน้าเดินจากไป ในวันสุดท้ายของการทำงาน เห็นแล้ว น่าเศร้าใจ ที่ต้องออกไปจากองค์กรที่เค้ารักและผูกพันมานานขนาดนี้"
"ถ้ากูเป็นเจ้าขององค์กรนี้ อยากจะสร้างองค์กรนี้ให้เข้มแข็ง อยากจะดูแลลูกน้องให้ดีกว่านี้"
ทำไงได้ล่ะ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
ไม่รู้ว่า ต่อไปวันข้างหน้า องค์กรนี้ จะต้องมีการปรับองค์กรอีกมั้ย แล้วจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ช่วงนี้ ติดตามข่าวธุรกิจการทำทีวีดิจิตอล มีบางช่อง ขาดทุนติดลบมากพอสมควร หลังจากลงทุนมามากมายมหาศาล แต่สปอนเซอร์ที่มาลงโฆษณา ที่จะทำให้สถานีมีรายได้ ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน รายรับน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ทีวีดิจิตอลหลายช่อง ไม่ค่อยจะดีซะแล้ว ในขณะที่บางช่อง มีคนติดตามดูเพิ่มขึ้น เรตติ้งดีขึ้น รายได้จากโฆษณา เริ่มมากขึ้น หลังจากติดลบมาหลายเดือน ตอนนี้ เริ่มมีกำไรมากขึ้นๆๆ
ส่วนทีวีดาวเทียม ช่องที่ติดตาม เอาใจช่วยมาตลอด อย่าง ASTV หรือ ชื่อปัจจุบัน คือ NEWS1 ซึ่งไม่ค่อยจะมีโฆษณาเข้ามาเลย แต่รายจ่าย ต้องจ่ายตลอดทุกๆเดือน แม้จะพยายามประคับประคอง จ่ายเงินเดือนให้พนักงาน บางส่วน เงินเดือนออกช้าบ้าง ต้องจ่ายย้อนหลังบ้าง แต่พนักงานที่ทำงานอยู่ อยู่กันด้วยใจ อดทนต่อสู้ฟันฝ่าช่วงเวลาที่ยากลำบากกันไป เพราะหลายคนรักองค์กรแห่งนี้จริงๆ
ก่อนหน้านี้ เคยปรับองค์กร ลดพนักงาน มีส่วนหนึ่ง สมัครใจลาออก เพื่อช่วยให้องค์กรอยู่ต่อไปได้ คนทำงานเหลือน้อยลง แต่เนื้องานยังอยู่ ลดค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แต่ให้องค์กร และส่วนที่สำคัญๆยังอยู่
ต้องยอมรับความจริงว่า เดี๋ยวนี้ มีทีวีให้เลือกดูหลายช่อง คนดู news1 ก็ลดจำนวนลง สถานการณ์การเมือง ไม่ได้ร้อนแรง เข้มข้นเหมือนหลายปีก่อน ผู้คนก็หันไปดูรายการบันเทิง ดูหนัง ดูละคร สบายใจมากกว่า
แม้จะมีคนดูน้อย แต่ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามดูอย่างเหนียวแน่น มีพี่น้องพันธมิตรที่บริจาคเงินช่วยเหลือ เป็นอาสาสมัครรักษา news1 ช่วยโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายให้ทุกๆเดือน โอนให้เท่าที่มีกำลังทรัพย์ กำลังเงินจะโอนให้ได้
แต่ความจริงอย่างหนึ่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายคน ต้องถอยห่าง เลิกดูเอเอสทีวี news1 รวมถึงเลิกสนับสนุนทีวีช่องนี้ ก็คือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้พนักงาน พิธีกร ผู้ประกาศข่าวหลายคน ต้องออกจาก news1 ไป อย่างที่ไม่อยากจะออกเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะมีบางคน บางกลุ่ม กดดัน จนต้องตัดสินใจออก
ล่าสุด คือ คุณแอน จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ที่อยู่กับที่นี่ มายาวนานเกิน 10 ปี เหนียวแน่น จนเป็นสัญลักษณ์ของทีวีช่องนี้ ใครเลยจะคิดว่า วันที่ 23 กันยายน 2558 จะได้ข่าว่า คุณแอน จินดารัตน์ จะต้องโบกมือลา นิวส์วัน
มีแฟนคลับ และมิตรสหายของตุณแอน หลายคน ออกมาแฉใน facebook ว่า ใครบางคน ที่กดดันให้คุณแอน ต้องออกไป ทั้งๆที่คุณแอน รักองค์กรแห่งนี้มากๆ
มีหลายคนที่จำใจต้องออกไปจากองค์กรแห่งนี้ ไปหางานทำที่อื่นแล้ว เมื่อมีเวลา ยังคงแวะเวียน กลับมาเยี่ยมองค์กร ให้กำลังใจ และติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวขององค์กรเดิมอยู่เสมอ
ที่นี่เคยปรับองค์กรไปแล้ว คราวนี้ ก็ต้องปรับองค์กรอีกครั้ง บางรายการ ก็หายไปจากจอ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และไปดึงรายการของช่อง ซูปเปอร์บันเทิง มาออกอากาศในช่อง นิวส์วัน เพื่อให้ทีวีช่องนี้สามารถออกอากาศได้ต่อไป
มีคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมทีวีดาวเทียมของสันติอโศก ถึงอยู่ได้ล่ะ ไม่เห็นต้องปรับปรุงลดขนาดองค์กร เหมือนเอเอสทีวีผู้จัดการ บ้างล่ะ , แล้ว ทีวีดาวเทียวช่องอื่นๆ ไม่เห็นมีปัญหาแบบนี้บ้างเลย
"แล้วรู้ได้ยังไงว่า ทีวีช่องอื่นๆไม่มีปัญหา"
"บางช่อง เค้ามีคนให้เงินสนับสนุนเป็นประจำ มีสปอนเซอร์ มีโฆษณาเข้ามา ทำให้เลี้ยงสถานีได้ บางช่องทีวีดาวเทียม ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายในการทำรายการ มากแบบนิวส์วันนี่ ยังไงก็อยู่ได้ แต่ของนิวส์วัน ทำรายการข่าว ทำสกุ๊ป เหมือนช่องฟรีทีวีเลย ค่าใช้จ่ายก็เลยเยอะเป็นเงาตามตัว"
"สันติอโศก เค้าทำรายการในพื้นที่ของเค้า วิธีการทำงานต่างกับเอกชน คนทำงานของสันติอโศก ไม่ต้องมาจ่ายเงินเดือนเหมือนบริษัทเอกชน และไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนในเมือง ที่จะต้องมีรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีหนี้สินมากมายแบบคนเมือง เค้าจึงอยู่ได้"
สำหรับ เอเอสทีวี นิวส์วัน นอกจากการปรับขนาดองค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่ายแล้ว ความเชื่อมั่น ศรัทธาของผู้คนที่เคยสนับสนุน ที่ลดน้อยลงไปทุกๆที นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งๆที่ต่อสู้ร่วมกันมา ผ่านเหตุการณ์เลวร้าย ถึงขั้นบาดเจ็บเสียชีวิต ผ่านการพิสูจน์หัวใจกันมาแล้ว แต่ความเห็นแก่ตัว ของคนหลายคน ทำให้องค์กรแห่นี้เกิดปัญหา .. หลายคนรู้สาเหตุ รู้ตัวปัญหา แต่ไม่อยากที่จะเป็นคนที่สร้างปัญหา ทำให้ความขัดแย้ง แตกแยก ขยายตัวไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจ นิ่ง เพื่อให้สถานการณ์ สงบ คนที่ยังอยู่ก็ต้องยืนหยัด ต่อสู้กันต่อไป
"อยากให้องค์กรนี้ อยู่ได้ มีรายรับเข้ามามากมาย จะได้ดึงคนที่รัก ผูกพันกับองค์กรนี้ กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง"
"คนที่ผ่านการทำงานที่นี่ ผ่านอุปสรรคความยากลำบากมาด้วยกัน เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งด้วยกันทั้งนั้น"
"อ่านใน facebook ติดตามเรื่องราวของพนักงานหลายคน ที่จำใจต้องออก เพื่อการปรับองค์กรให้อยู่รอด หลายคนทำงานมานานกว่า 20-30ปี ต้องก้มหน้าเดินจากไป ในวันสุดท้ายของการทำงาน เห็นแล้ว น่าเศร้าใจ ที่ต้องออกไปจากองค์กรที่เค้ารักและผูกพันมานานขนาดนี้"
"ถ้ากูเป็นเจ้าขององค์กรนี้ อยากจะสร้างองค์กรนี้ให้เข้มแข็ง อยากจะดูแลลูกน้องให้ดีกว่านี้"
ทำไงได้ล่ะ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
ไม่รู้ว่า ต่อไปวันข้างหน้า องค์กรนี้ จะต้องมีการปรับองค์กรอีกมั้ย แล้วจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น