ปัญหาอุจจาระตกค้าง ขี้ไม่สุด
สำหรับคนที่ห่วงใย ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน..
.. ทุกวัน จะต้องเข้าห้องน้ำ ขับถ่าย แต่ถ้าเจอช่วงที่ถ่ายไม่ค่อยออก ถ่ายไม่สุด.. นี่ละ เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
"ตอนเช้า ก็พยายามเข้าส้วม นั่งขี้ทุกเช้า แต่ทำไม เดี๋ยวนี้ เบ่งตั้งนาน กว่าจะขี้ออก พอขี้ออกมา จนหมดแล้ว ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง ก็ดันปวดขี้อีก"
"แบบนี้ ขี้ไม่สุด ขี้ไม่หมดนี่"
"ก็ตอนแรกที่นั่งขี้ ก็หมดแล้วนะ แล้วทำไม มันยังขี้ไม่สุดอีก"
แต่ละโรคที่เกิดขึ้น เกิดจากการกินของคนเรานี่ละ
.. กิน แดก สวบ ตามใจปาก กินอร่อย เข้าไว้ แต่สิ่งที่กินเข้าไป มันสะสมไว้ และเป็นผลเสียต่อสุขภาพ
พอดีได้ไปอ่านเจอบทความชิ้นนี้ ทำให้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไม ถึงเกิดเหตุอุจจาระตกค้าง
+ + + +
ตะลึง คุณหมอพรทิพย์ เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ
บางศพมีน้ำหนักอุจจาระถึง 10 kg เป็นเพราะอะไร
อุจจาระตกค้าง เนื่องมาจาก
1.เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
2.กินอาหารที่มีกากใยน้อย
3.มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
4.ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบ ทำให้น้ำที่ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน
5.ไม่ถ่ายอุจจาระ เวลา 05.00-07.00 น.
หากถ่ายอุจจาระหลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน เวลาถ่ายจะถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้ จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอ มาจ่อปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญาณบอกสมองให้ปวดอึ หลัง 7 โมงเช้า
ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วง เวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้ว เราก็หยุด แต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นมา ไม่มาจ่อปลายทวาร ทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่า หมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า มันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่น
ฉะนั้น ทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอ ส่วนที่เหลือก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆในกระเพาะ และกดทับกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการมากมาย เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไม่เกรนและอื่นๆ
จึงจำเป็นต้องหาสาเหตุว่า เป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น แต่ถ้าสามารถได้รับการตรวจด้วยลูกดิ่งเพนดูลั่ม ก็จะรู้ได้
สำหรับท่านที่ไม่สะดวกมาตรวจ แนะนำให้ถ่ายพยาธิ แล้วลองสูตรอาหารดังต่อไปนี้
1 เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน
- เม็ดแมงลัก จะลากอุจจาระตกค้างออกมา ทานเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3-4 วัน ต่อสัปดาห์ แล้วแต่ละชอบ
2.นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร) และกล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า
ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมงเช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตามที่เห๋นสมควร
3 ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบ ผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออกมา
เครดิต ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaiseoboard.com/index.php?action=printpage;topic=56207.0
สำหรับคนที่ห่วงใย ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน..
.. ทุกวัน จะต้องเข้าห้องน้ำ ขับถ่าย แต่ถ้าเจอช่วงที่ถ่ายไม่ค่อยออก ถ่ายไม่สุด.. นี่ละ เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
"ตอนเช้า ก็พยายามเข้าส้วม นั่งขี้ทุกเช้า แต่ทำไม เดี๋ยวนี้ เบ่งตั้งนาน กว่าจะขี้ออก พอขี้ออกมา จนหมดแล้ว ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง ก็ดันปวดขี้อีก"
"แบบนี้ ขี้ไม่สุด ขี้ไม่หมดนี่"
"ก็ตอนแรกที่นั่งขี้ ก็หมดแล้วนะ แล้วทำไม มันยังขี้ไม่สุดอีก"
แต่ละโรคที่เกิดขึ้น เกิดจากการกินของคนเรานี่ละ
.. กิน แดก สวบ ตามใจปาก กินอร่อย เข้าไว้ แต่สิ่งที่กินเข้าไป มันสะสมไว้ และเป็นผลเสียต่อสุขภาพ
พอดีได้ไปอ่านเจอบทความชิ้นนี้ ทำให้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไม ถึงเกิดเหตุอุจจาระตกค้าง
+ + + +
ตะลึง คุณหมอพรทิพย์ เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ
บางศพมีน้ำหนักอุจจาระถึง 10 kg เป็นเพราะอะไร
อุจจาระตกค้าง เนื่องมาจาก
1.เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
2.กินอาหารที่มีกากใยน้อย
3.มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
4.ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบ ทำให้น้ำที่ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน
5.ไม่ถ่ายอุจจาระ เวลา 05.00-07.00 น.
หากถ่ายอุจจาระหลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน เวลาถ่ายจะถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้ จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอ มาจ่อปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญาณบอกสมองให้ปวดอึ หลัง 7 โมงเช้า
ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วง เวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้ว เราก็หยุด แต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นมา ไม่มาจ่อปลายทวาร ทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่า หมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า มันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่น
ฉะนั้น ทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอ ส่วนที่เหลือก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆในกระเพาะ และกดทับกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการมากมาย เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไม่เกรนและอื่นๆ
จึงจำเป็นต้องหาสาเหตุว่า เป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น แต่ถ้าสามารถได้รับการตรวจด้วยลูกดิ่งเพนดูลั่ม ก็จะรู้ได้
สำหรับท่านที่ไม่สะดวกมาตรวจ แนะนำให้ถ่ายพยาธิ แล้วลองสูตรอาหารดังต่อไปนี้
1 เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน
- เม็ดแมงลัก จะลากอุจจาระตกค้างออกมา ทานเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3-4 วัน ต่อสัปดาห์ แล้วแต่ละชอบ
2.นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร) และกล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า
ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมงเช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตามที่เห๋นสมควร
3 ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบ ผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออกมา
เครดิต ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaiseoboard.com/index.php?action=printpage;topic=56207.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น