ความห่วงใยของพ่อบ้าน กับการลงแรงทำงานของแม่บ้าน
ในความห่วงใย บางที
สีหน้าท่าทางการตีความของแววตา
ความรู้สึกที่เห็น อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
.. เมื่อเธอรู้สึกว่า อยากมีส่วนช่วยเหลือ
ไม่อยากเป็นภาระ..
"..ทำยังไงดี จะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง.."
ด้วยความอึดอัด ที่สภาพในเวลานั้น ไม่สามารถจะทำงานหนักๆอะไรได้
..มากกว่า การเป็น "แม่บ้าน" คนหนึ่งเท่านั้น
โอกาส มักจะเข้ามาหาเสมอ
..คนที่ให้โอกาส นั้น เข้าใจ และสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน..
เมื่อ "แม่บ้าน" ที่เนื้อตัวมอมแมม จากการทำงานตลอดทั้งวัน
อยากช่วย "พ่อบ้าน" หาเงินเข้าบ้าน
..แบ่งเบาภาระของพ่อบ้านบ้าง
"อือม ลองดูสักตั้ง ว่า แม่บ้านจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างมั้ย หากได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำ"
การได้มีโอกาสทำงานของแม่บ้าน ที่ได้รับการสนับสนุน จาก พ่อบ้าน ที่รักเธอ
ทำให้ วันจันทร์ เริ่มต้นขึ้น ด้วยคำสั่งซื้อทางออนไลน์
คำสั่งซื้อจากคนที่รู้จักกับพ่อบ้าน
และอีกช่องทางหนึ่ง ที่พ่อบ้าน เปิดทางไว้
.. การโฆษณาทาง facebook
ที่เสียเงินค่าโฆษณา เพื่อทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้น ได้เห็นสินค้าที่ แม่บ้านจะทำขาย
ทำขายแล้ว ส่งทางไปรษณีย์ เมื่อคุณได้โอนเงินมาแล้ว
แม่บ้าน ก็จะลงมือ ทำขนม ตามออเดอร์ แล้วไปส่งไปรษณีย์ โดยมีพ่อบ้านไปด้วย
ไปช่วยกัน อยู่เคียงข้างกัน
เมื่อมีออเดอร์ "แม่บ้าน" ตั้งใจทำเต็มที่
งานหนักไม่กลัว กลัวจะไม่มีวัตถุดิบ มาทำงานเพื่อส่งให้คนที่สั่งของ
แม่บ้านต้องขับรถมอเตอร์ไซต์ ไปยังตลาดสด
ไปหาซื้อวัตถุดิบ ซื้อขนาดที่ต้องการ คละกับขนาดเล็ก
เพราะในช่วงเวลานี้ วัตถุดิบ ค่อนข้างขาดแคลน..
แถมยังราคาแพงด้วย..
แต่ "แม่บ้าน" ก็สามารถประยุกต์ ดัดแปลง คละวัตถุดิบ ให้มีคุณภาพ และน่าทานได้..
"พ่อบ้าน" เฝ้ามองการทำงานของ "แม่บ้าน"
แม้จะทำงานหนัก แต่แม่บ้าน ก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่..
จนลืมทานข้าว และลืมเหนื่อย...
เมื่อนั่งนานๆ จนงานใกล้จะเสร็จ ในแต่ละวัน
ก็กินเวลาค่ำแล้ว
ในยามนั้น จะรู้สึกปวดหลัง.
เหนื่อย แต่มีความสุขที่ได้ทำงาน..
เมื่อทำงาน ได้เงิน มีรายรับ พ่อบ้าน ก็เปิดโอกาส ให้แม่บ้านได้ใช้จ่าย วางแผนการทำงานอย่างเต็มที่
แม่บ้านทำบัญชี เพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปของค่าใช้จ่าย
จะได้รู้ว่า เงินถูกใช้ไปในส่วนไหนบ้าง
จะได้รู้ว่า เงินหายไปไหน
กำไร หรือ ขาดทุน
แม้จะเป็นเงินเพียงไม่กี่ร้อย..
แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการหมุนเวียนในบ้าน..
ความมีชีวิตชีวา ก็เกิดขึ้น..
ในมุมหนึ่ง แม่บ้าน ก็พูดขึ้นมาว่า
"พ่อบ้าน ไม่อยากดูแล แม่บ้านแล้วเหรอ"
ไม่อยากเสียเงิน ซื้อของให้แม่บ้าน
ไม่อยากใช้เงิน เลี้ยงดูแม่บ้านแล้วล่ะสิ..
พ่อบ้าน นิ่งเงียบ...
พ่อบ้านยังคงดูแล แม่บ้านอยู่ตลอด..
เมื่อแม่บ้าน อยากมีโอกาสทำงาน หารายได้เช้าบ้านบ้าง
พ่อบ้าน ก็สนับสนุนเต็มที่..
เปิดช่องทางจากการค้าขาย ออนไลน์
ผ่าน facebook..
3-4 ออเดอร์แรก เริ่มจากการแนะนำเพื่อนๆของพ่อบ้าน..
เพื่อนๆ ซึ่งชอบบริโภคสินค้าที่ทำออกมาอยู่แล้ว
ก็เลยช่วยอุดหนุนซะเลย..
แม่บ้าน ก็พยายามทำสินค้านั้น อย่างเต็มที่
ทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่อยากให้พ่อบ้านเสียชื่อ..
และหวังต่อไปว่า สินค้าที่ทำออกมา จะเป็นที่ประทับใจของเพื่อนของพ่อบ้าน
มีการแนะนำบอกต่อ
จนมีลูกค้า เพิ่มมากขึ้น..
ซึ่งจะหารายได้เข้าบ้านมากขึ้น..
เมื่อทั้งสองคน ร่วมด้วยช่วยกัน สนับสนุนกันและกัน
เป็นการเสริมแรงช่วยกัน...
แล้วการทำงานชิ้นเล็กๆจากบ้านหลังหนึ่ง ก็สามารถสร้างรายได้เข้าบ้านได้
..ไม่ต้องไปง้อใคร
เพราะยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง
ในความห่วงใย บางที
สีหน้าท่าทางการตีความของแววตา
ความรู้สึกที่เห็น อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
.. เมื่อเธอรู้สึกว่า อยากมีส่วนช่วยเหลือ
ไม่อยากเป็นภาระ..
"..ทำยังไงดี จะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง.."
ด้วยความอึดอัด ที่สภาพในเวลานั้น ไม่สามารถจะทำงานหนักๆอะไรได้
..มากกว่า การเป็น "แม่บ้าน" คนหนึ่งเท่านั้น
โอกาส มักจะเข้ามาหาเสมอ
..คนที่ให้โอกาส นั้น เข้าใจ และสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน..
เมื่อ "แม่บ้าน" ที่เนื้อตัวมอมแมม จากการทำงานตลอดทั้งวัน
อยากช่วย "พ่อบ้าน" หาเงินเข้าบ้าน
..แบ่งเบาภาระของพ่อบ้านบ้าง
"อือม ลองดูสักตั้ง ว่า แม่บ้านจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างมั้ย หากได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำ"
การได้มีโอกาสทำงานของแม่บ้าน ที่ได้รับการสนับสนุน จาก พ่อบ้าน ที่รักเธอ
ทำให้ วันจันทร์ เริ่มต้นขึ้น ด้วยคำสั่งซื้อทางออนไลน์
คำสั่งซื้อจากคนที่รู้จักกับพ่อบ้าน
และอีกช่องทางหนึ่ง ที่พ่อบ้าน เปิดทางไว้
.. การโฆษณาทาง facebook
ที่เสียเงินค่าโฆษณา เพื่อทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้น ได้เห็นสินค้าที่ แม่บ้านจะทำขาย
ทำขายแล้ว ส่งทางไปรษณีย์ เมื่อคุณได้โอนเงินมาแล้ว
แม่บ้าน ก็จะลงมือ ทำขนม ตามออเดอร์ แล้วไปส่งไปรษณีย์ โดยมีพ่อบ้านไปด้วย
ไปช่วยกัน อยู่เคียงข้างกัน
เมื่อมีออเดอร์ "แม่บ้าน" ตั้งใจทำเต็มที่
งานหนักไม่กลัว กลัวจะไม่มีวัตถุดิบ มาทำงานเพื่อส่งให้คนที่สั่งของ
แม่บ้านต้องขับรถมอเตอร์ไซต์ ไปยังตลาดสด
ไปหาซื้อวัตถุดิบ ซื้อขนาดที่ต้องการ คละกับขนาดเล็ก
เพราะในช่วงเวลานี้ วัตถุดิบ ค่อนข้างขาดแคลน..
แถมยังราคาแพงด้วย..
แต่ "แม่บ้าน" ก็สามารถประยุกต์ ดัดแปลง คละวัตถุดิบ ให้มีคุณภาพ และน่าทานได้..
"พ่อบ้าน" เฝ้ามองการทำงานของ "แม่บ้าน"
แม้จะทำงานหนัก แต่แม่บ้าน ก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่..
จนลืมทานข้าว และลืมเหนื่อย...
เมื่อนั่งนานๆ จนงานใกล้จะเสร็จ ในแต่ละวัน
ก็กินเวลาค่ำแล้ว
ในยามนั้น จะรู้สึกปวดหลัง.
เหนื่อย แต่มีความสุขที่ได้ทำงาน..
เมื่อทำงาน ได้เงิน มีรายรับ พ่อบ้าน ก็เปิดโอกาส ให้แม่บ้านได้ใช้จ่าย วางแผนการทำงานอย่างเต็มที่
แม่บ้านทำบัญชี เพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปของค่าใช้จ่าย
จะได้รู้ว่า เงินถูกใช้ไปในส่วนไหนบ้าง
จะได้รู้ว่า เงินหายไปไหน
กำไร หรือ ขาดทุน
แม้จะเป็นเงินเพียงไม่กี่ร้อย..
แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการหมุนเวียนในบ้าน..
ความมีชีวิตชีวา ก็เกิดขึ้น..
ในมุมหนึ่ง แม่บ้าน ก็พูดขึ้นมาว่า
"พ่อบ้าน ไม่อยากดูแล แม่บ้านแล้วเหรอ"
ไม่อยากเสียเงิน ซื้อของให้แม่บ้าน
ไม่อยากใช้เงิน เลี้ยงดูแม่บ้านแล้วล่ะสิ..
พ่อบ้าน นิ่งเงียบ...
พ่อบ้านยังคงดูแล แม่บ้านอยู่ตลอด..
เมื่อแม่บ้าน อยากมีโอกาสทำงาน หารายได้เช้าบ้านบ้าง
พ่อบ้าน ก็สนับสนุนเต็มที่..
เปิดช่องทางจากการค้าขาย ออนไลน์
ผ่าน facebook..
3-4 ออเดอร์แรก เริ่มจากการแนะนำเพื่อนๆของพ่อบ้าน..
เพื่อนๆ ซึ่งชอบบริโภคสินค้าที่ทำออกมาอยู่แล้ว
ก็เลยช่วยอุดหนุนซะเลย..
แม่บ้าน ก็พยายามทำสินค้านั้น อย่างเต็มที่
ทำออกมาให้ดีที่สุด ไม่อยากให้พ่อบ้านเสียชื่อ..
และหวังต่อไปว่า สินค้าที่ทำออกมา จะเป็นที่ประทับใจของเพื่อนของพ่อบ้าน
มีการแนะนำบอกต่อ
จนมีลูกค้า เพิ่มมากขึ้น..
ซึ่งจะหารายได้เข้าบ้านมากขึ้น..
เมื่อทั้งสองคน ร่วมด้วยช่วยกัน สนับสนุนกันและกัน
เป็นการเสริมแรงช่วยกัน...
แล้วการทำงานชิ้นเล็กๆจากบ้านหลังหนึ่ง ก็สามารถสร้างรายได้เข้าบ้านได้
..ไม่ต้องไปง้อใคร
เพราะยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น