วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

ใกล้แค่รั้วบ้าน แต่เพื่อนบ้านไม่คิดทักทายกัน

ใกล้แค่รั้วบ้าน แต่เพื่อนบ้านไม่คิดทักทายกัน

สำหรับคนยุคใหม่ ยุคดิจิตอล หลายสิ่งหลายอย่าง ซับซ้อนมากขึ้น
จนทำให้เรื่องง่ายๆ กลายเป็นเรื่องยาก

.. เดี๋ยวนี้ ทุกคน รู้จักและติดต่อกับคนที่อยู่ห่างไกลออกไป หลายร้อย หลายพันกิโลเมตร ข้ามประเทศ ข้ามทวีป
สามารถูดคุยสื่อสารกันในพริบตาเดียว

แต่.. กับคนที่มีรั้วบ้านติดกัน..
.. เป็นเพื่อนบ้านกัน แทบจะทักทาย พูดคุยกันน้อยมากๆ

แค่กำแพง รั้วบ้าน มันสามารถกั้นมิตรภาพได้เลยนะ

ในชนบท สำหรับคนรุ่นเก่าๆ ที่ไม่ได้มีโซเชียลมีเดีย
.. เดินออกมานอกบ้าน มีคนร้องทักทาย
.. มีคนรู้จักชื่อ รู้จักไปหมด ว่าใครเป็นลูกใคร
.. มีการพูดคุยกันเรื่อยๆ

แต่สำหรับเด็กรุ่นใหม่ มีความเป็นส่วนตัวสูง
.. โลกส่วนตัวสูงมาก
.. น่าขำ ที่หลายคน ทักทายกันผ่านโซเชียลมีเดีย
.. เป็นเพื่อนบ้านกัน จะสื่อสารทักทายกัน ต้องส่งข้อความผ่าน facebook

กรูจะบ้าตาย
.. มันคงเป็นเรื่องยาก กับการไปตะโกนเรียกเพื่อนบ้าน
ยากที่จะไปยืนคุยกัน ทั้งๆที่บ้านใกล้กัน..
.. ก็ต้องสื่อสารกันผ่านโซเชียลมีเดีย

"หยุดก่อนสู คนสมัยก่อน มีน้ำใจไมตรีกันมากมาย  ..แต่คนยุคนี้ เห็นแก่ตัวแล้งน้ำใจ อิจฉา ริษยา ไม่น่าคบ"
" ถ้าการพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ที่ปากอย่างใจอย่าง แล้ว เอาเรื่องของบ้านเรา ไปใส่สีตีไข่ เอาไปเม้ากันอย่างสนุกปาก เพื่อนบ้านแบบนี้ มันน่าคบมั้ย"
" เพื่อนบ้านที่ดีๆ ก็มี แต่ประเภทที่เห็นคนอื่นดีกว่าตัวเอง แล้วอิจฉาริษยา ลับหลังก็ไปพูดว่าร้าย ต่อหน้า ก็ทำเป็นมิตรที่ดี แล้วเพื่อนบ้านอย่างนี้ น่าคบรึเปล่า"

ไม่รู้สินะ เมื่อสังคมไทย มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น..
.. จะคบใคร จะพูดอะไรกับใคร คงต้องตั้งสติสักหน่อย
เพื่อนบ้านหลายคนน่ะ ตัวดี
.. ได้ยิน ได้เห็น อะไรจากบ้านข้างๆ ทั้งๆที่ยังไม่ชัดเจน ไม่รู้ความเป็นจริง
.. ได้เห็นแค่บางมุม ได้ยินคำพูดไม่กี่คำ ท่านก็เอาไปนินทาต่อ ใส่สีเติมไฟ เม้ากันให้มันส์ปาก
เรื่องนินทานี่ ปากต่อปาก ในเวลาไม่นาน ก็รู้กันไปทั่ว

เมื่อคนที่ถูกพูดถึง ได้ยิน ก็รู้สึกไม่ดี..
.. เมื่อรู้ว่า เพื่อนบ้านข้างรั้วบ้าน เอาเรื่องนี้ ไปเม้า ปากต่อปาก
. ก็เสียความรู้สึกมากพอสมควร

..เจอเพื่อนบ้านอย่างนี้ ก็ต้องทำใจบ้างงนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น